ครั้งหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้เจอพระดีแห่งชัยนาท

หลวงปู่นะ วัดหนองบัว อ.สิงห์ ชัยนาท  ปัจจุบันท่านชราภาพมากแล้วอายุได้ 96-7 ปี  วันที่ได้ไปกราบสักการะท่านนั้นเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2555 ข้าพเจ้าได้เดินทางไปถึงวัดประมาณ 10.00 โมงเช้า ในระหว่างการเดินทางได้แวะไปรับพระอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่นะที่อยุธยา และมีความสนิทสนมกับพระอาจารย์เวศ ซึ่งเป็นศิษย์เอกที่ใกล้ชิดหลวงปู่นะ ปัจจุบันทำหน้าที่ดูแล พัฒนางานก่อสร้างทั้งหมดของวัด  ก่อนที่ข้าพเจ้าและคณะจะเดินทางไปถึงวัดหนองบัว  พระอาจารย์ที่เดินทางไปกับข้าพเจ้าได้โทรศัพท์สอบถามพระอาจารย์เวศ ว่าหลวงปู่นะ ออกมารับแขกแล้วยัง ซึ่งพระอาจารย์เวศ ก็บอกว่าไม่ทราบเพราะตอนเช้าท่านไปนั่งสวดมนต์ภาวนาอยู่ที่พระเจดีย์  พระอาจารย์ที่ร่วมเดินทางได้สอบถามพระอาจารย์เวศว่าหลวงปู่นะท่านฉันอะไรได้บ้าง เพราะก่อนเข้าวัดจะได้ซื้อของไปถวาย  ตอนที่ถามนั้นข้าพเจ้าและคณะได้อยู่ที่ร้าน 7-11 ในตลาดอำเภอสิงห์ ก็ทราบว่าท่านฉันได้แต่รังนกจึงได้ซื้อไปถวาย   เป็นเรื่องที่อัศจรรย์หรือบังเอิญไม่ทราบ  เมื่อเรากำลังเดินขึ้นไปกุฏิหลวงปู่นะ ตอนนั้นประมาณ 10โมงเช้า มีคนแก่ที่นั่งอยู่ข้างหน้าประตูทางเข้าพูดออกมาว่า หลวงปู่นะ ได้ออกมารอรับพวกเราแล้ว  ซึ่งเหมือนกับหลวงปู่นะ ท่านมีญาณรู้ว่าคณะเราเดินทางมา  ตอนที่เจอหลวงปู่นะ ครั้งแรก ท่านชราภาพมากแล้ว  กึ่งนั่งกี่งนอนอยู่บนเก้าอี้หลับตาอยู่คนเดียว ไม่เห็นมีใครอยู่ข้างๆเลย ตอนที่เจอท่านพระอาจารย์เวศ ยังอยู่ที่พระเจดีย์  หลวงปู่นะ ท่านนั่งหลับตาอยู่ตลอด เพราะทราบว่าดวงตาท่านมองไม่เห็น สัญญาความจำของท่านก็อาจมีเสื่อมบ้าง  แต่โดยรวมท่านยังมีสติจำได้ ที่แน่ๆท่านยังสวดยถาสัพพีให้พรพวกเราได้  พอพูดคุยกันได้รู้เรื่อง ตอนที่จะพูดคุยกับหลวงปู่นะ ก็ได้พระอาจารย์เวศมาช่วยพูดตะโกนอยู่ข้างๆหูของหลวงปู่นะ ทำให้พอจะสื่อสารกับหลวงปู่ได้  หลวงปู่นะ ท่านคงจะดีใจที่พระอาจารย์ที่ร่วมเดินทางมากับข้าพเจ้ามาเยี่ยมเยือน  ทราบว่าหลวงปู่นะ ฉันอาหารได้น้อยมาก สงสารท่านมากครับตอนเจอ  โชคดีที่เราได้มีโอกาสถวายรังนกที่ซื้อมา แล้วพระอาจารย์เวศได้เปิดรังนกสองขวดใส่ถ้วยแก้ว ถวายให้หลวงปู่นะ ได้ฉันต่อหน้าพวกเรา  ตอนแรกนึกว่าหลวงปู่นะ ท่านคงฉันไม่ได้เพราะทราบว่าท่านฉันอะไรได้น้อยมากและแทบจะไม่ฉันอะไรเลยในแต่ละวัน  แต่เหมือนอัศจรรย์หลวงปู่นะ ท่านได้หยิบรังนกที่เราใส่แก้วมาฉันจนหมด ทำให้พวกเราและพระอาจารย์เวศดีใจมากครับ  ที่อัศจรรย์ตอนที่คณะเราไปหาหลวงปู่นะ เราเป็นคณะแรกที่ได้เข้ากราบท่าน และแปลกตรงที่หลวงปู่นะ ออกมานั่งรอพวกเราก่อนหน้า แม้แต่ตุณลุงที่นั่งอยู่หน้าประตูยังต้องเอ่ยปากว่าหลวงปู่วันนี้แปลกออกมานั่งรอใครแต่เข้า ซึ่งผิดจากกิจวัตรโดยปกติ  ข้าพเจ้าและคณะได้ถวายรูปพระพุทธเมตตาใส่กรอบอันใหญ่ให้แก่หลวงปู่นะ  ท่านได้ลูบคลำอยู่นานเลยครับ  ดูเหมือนหลวงปู่นะ จะดีใจมากเป็นพิเศษ พระอาจารย์เวศได้นำรูปที่เราถวายยกไปติดให้หลวงปู่ที่เสากุฏิ  ถ้าใครไปกราบนมัสการสังเกตดูอาจได้เจอรูปที่เราได้ถวาย  ข้าพเจ้าได้กราบขอหลวงปู่นะ ช่วยอธิษฐานพระพุทธเมตตาที่เป็นไม้โพธิ์จากพุทธคยา ขนาดบูชาของข้าพเจ้า ซึ่งเป็นพระที่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว เมื่อหลวงปู่นะได้สัมผัสพระองค์นี้ท่านจับอยู่นาน ที่แปลกคือปกติหลวงปู่นะ จะหลับตาอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อได้สัมผัสพระพุทธเมตตาองค์นี้หลวงปู่ได้ลืมตาโพลงเป็นประกายแจ่มใส เพ่งดูพระองค์นี้ตลอด เหมือนท่านจะมีความปิติเป็นพิเศษ  ท่านได้อธิษฐานสวดมนต์อยู่นาน  ได้บอกให้พระอาจารย์เวศนำพระองค์นี้ไปตั้งบูชา  ข้าพเจ้าจึงต้องบอกหลวงปู่ว่าพระองค์นี้ถวายไม่ได้ เพราะเป็นพระขนาดบูชาที่พระอาจารย์อันเป็นที่รักของข้าพเจ้าและครอบครัวได้มอบให้ ซึ่งมีแค่ 2 องค์เท่านนั้นในโลกนี้จะไม่มีการทำอีก  ข้าพเจ้าเห็นหลวงปู่ศรัทธาในพระพุทธเมตตามาก  บังเอิญภรรยาข้าพเจ้าได้พระไม้โพธ์แกะขนาดเล็กติดตัวมาด้วย จึงบอกให้ถวายมอบให้เป็นสมบัติของหลวงปู่นะ  ข้าพเจ้าจึงได้มอบพระไม้โพธิ์พุทธคยาที่เป็นพระองค์เล็กใส่มือหลวงปู่นะ  ซึ่งหลวงปู่ได้นำพระองค์เล็กนี้ไปถูที่ดวงตาของท่านอยู่เป็นเวลานาน  ก่อนที่จะเก็บใส่ไว้ในอังสะของท่าน  เหตุการณ์ตอนที่เราได้อยู่กับหลวงปู่นะ ตอนนั้นมีชาวบ้านและผู้ศรัทธามาหาหลวงปู่หลายสิบคน จำได้ว่ามีแม่ชีด้วยหนึ่งคน  เมื่อได้กราบสนทนากับหลวงปู่เป็นเวลาสมควรแล้ว ก็ได้ร่วมทำบุญทอดกฐินกับท่าน  เสร็จแล้วหลวงปู่นะ เมตตาให้พรเอามือจับศีรษะของข้าพเจ้าให้พรอยู่นานครับ  เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสเจอหลวงปู่นะ ซึ่งท่านเป็นพระดีน่าเคารพ  หลังจากกราบลาหลวงปู่นะ แล้วคณะเราได้เดินไปสวดมนต์ที่พระเจดีย์  จนกระทั่งประมาณบ่ายโมง พระอาจารย์เวศได้มาที่พระเจดีย์ ก็เหมือนบังเอิญละครับ ได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับพระอาจารย์เวศชุดใหญ่ จึงได้ทราบว่าท่านพระอาจารย์เป็นพระดี ภูมิธรรมสูง ปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น ระยะเวลาที่ได้สนทนากับพระอาจารย์เวศก็เป็นชั่วโมงครับ  พระอาจารย์เวศ อยู่ปรนนิบัติช่วยหลวงปู่นะ ประมาณ 10กว่าพรรษา  พระอาจารย์เวศ ในสมัยเป็นฆราวาสเคยรับราชการ เข้าใจว่าก่อนหน้านั้นท่านคงศึกษาและสนใจธรรมะมาก่อนที่จะบวชเป็นพระ  ด้วยความที่ข้าพเจ้าได้เจอพระอาจารย์เวศ เป็นครั้งแรก ไม่กล้าสอบถามประวัติท่านมากนัก แล้วแต่ท่านจะบอก พระอาจารย์เวศ เคยศึกษาวิชากรรมฐานอยู่กับหลวงปู่ละไม ซึ่งเป็นสายพระครูโลกอุดร หลวงปู่ละไม พยายามจะให้พระอาจารย์เวศเรียนวิชาอาคม ถ่ายทอดวิชาสำคัญบางอย่างให้เช่นการทำปรอท เป็นต้น แต่พระอาจารย์เวศ ท่านปฏิบัติธรรมเพื่อแสวงหาความหลุดพ้น ท่านได้ปฏิเสธหลวงปู่ละไม ที่จะเรียนวิชาเหล่านั้น  พระอาจารย์เวศ ท่านชอบสวดมนต์ตามที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏก เช่น พระปริตรสิบสองตำนาน บทสรรเสริญพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ เป็นต้น  ในประสบการณ์ด้านการปฏิบัติของพระอาจารย์เวศ ท่านได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังหลายเรื่องเป็นเรื่องที่ข้าพเข้าไม่สามารถถ่ายทอดได้ เอาเป็นวันว่าพระอาจารย์เวศ เป็นพระสุปฏิปัณโณ ที่แสวงหาธรรมเพื่อความหลุดพ้น จะหาพระแท้ พระดีอย่างนี้ไม่ง่ายแล้วครับ  นอกจากหลวงปู่ละไม พระอาจารย์เวศยังได้เคยอยู่กับหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุและท่านพระอาจารย์พุทธทาส  ดังนั้นพื้นฐานธรรมะของพระอาจารย์เวศจึงไม่ธรรมดา พระอาจารย์เวศ มีลายมือที่เขียนภาษาขอมได้สวยมากๆ ทั้งช่องไฟของตัวอักขระ ความคมชัด ลายเส้น แสดงให้เห็นถึงจิตที่ไม่ธรรมดา ท่านได้เมตตาให้ข้าพเจ้าเปิดดูพระคาถาที่ท่านได้รวบรวมไว้เป็นคาถาที่เขียนด้วยภาษาขอมทั้งหมด มีที่เขียนเป็นภาษาไทยที่พออ่านออกคือชื่อของพระคาถา   หนึ่งในพระคาถาของท่านที่ข้าพเจ้าเห็นว่าหายากและไม่เหมือนที่เจอคือพระคาถาอาการวัตตสูตร ซึ่งท่านค้นคว้าได้ฉบับที่สมบูรณ์มาจากศรีลังกา  พระอาจารย์เวศ ได้เมตตากับข้าพเจ้ามาก ได้เล่าประสบการณ์ในการปฏิบัติให้ฟังหลายอย่าง รวมทั้งประวัติของท่าน เรื่องรางของวัด  นอกจากนี้ยังได้พูดปริศนาธรรมอีกหลายอย่าง ที่น่าสนใจ  ที่ยังสงสัยในใจทำไมท่านจึงให้ข้าพเจ้าเปิดดูพระคาถาทั้งหมดเพียงคนเดียว ไม่กล้าถามครับ 

***  เรื่องที่เขียนมาเพื่อยกยอ่งครูบาอาจารย์  และเป็นเรื่องจริงที่ข้าพเจ้าสัมผัสมาด้วยตนเอง ***

ครั้งหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้เจอพระดีแห่งชัยนาท!!!

 
หลวงปู่นะ วัดหนองบัว อ.สิงห์ ชัยนาท  ปัจจุบันท่านชราภาพมากแล้วอายุได้ 96-7 ปี  วันที่ได้ไปกราบสักการะท่านนั้นเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2555 ข้าพเจ้าได้เดินทางไปถึงวัดประมาณ 10.00 โมงเช้า ในระหว่างการเดินทางได้แวะไปรับพระอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่นะที่อยุธยา และมีความสนิทสนมกับพระอาจารย์เวศ ซึ่งเป็นศิษย์เอกที่ใกล้ชิดหลวงปู่นะ ปัจจุบันทำหน้าที่ดูแล พัฒนางานก่อสร้างทั้งหมดของวัด  ก่อนที่ข้าพเจ้าและคณะจะเดินทางไปถึงวัดหนองบัว  พระอาจารย์ที่เดินทางไปกับข้าพเจ้าได้โทรศัพท์สอบถามพระอาจารย์เวศ ว่าหลวงปู่นะ ออกมารับแขกแล้วยัง ซึ่งพระอาจารย์เวศ ก็บอกว่าไม่ทราบเพราะตอนเช้าท่านไปนั่งสวดมนต์ภาวนาอยู่ที่พระเจดีย์  พระอาจารย์ที่ร่วมเดินทางได้สอบถามพระอาจารย์เวศว่าหลวงปู่นะท่านฉันอะไรได้บ้าง เพราะก่อนเข้าวัดจะได้ซื้อของไปถวาย  ตอนที่ถามนั้นข้าพเจ้าและคณะได้อยู่ที่ร้าน 7-11 ในตลาดอำเภอสิงห์ ก็ทราบว่าท่านฉันได้แต่รังนกจึงได้ซื้อไปถวาย   เป็นเรื่องที่อัศจรรย์หรือบังเอิญไม่ทราบ  เมื่อเรากำลังเดินขึ้นไปกุฏิหลวงปู่นะ ตอนนั้นประมาณ 10โมงเช้า มีคนแก่ที่นั่งอยู่ข้างหน้าประตูทางเข้าพูดออกมาว่า หลวงปู่นะ ได้ออกมารอรับพวกเราแล้ว  ซึ่งเหมือนกับหลวงปู่นะ ท่านมีญาณรู้ว่าคณะเราเดินทางมา  ตอนที่เจอหลวงปู่นะ ครั้งแรก ท่านชราภาพมากแล้ว  กึ่งนั่งกี่งนอนอยู่บนเก้าอี้หลับตาอยู่คนเดียว ไม่เห็นมีใครอยู่ข้างๆเลย ตอนที่เจอท่านพระอาจารย์เวศ ยังอยู่ที่พระเจดีย์  หลวงปู่นะ ท่านนั่งหลับตาอยู่ตลอด เพราะทราบว่าดวงตาท่านมองไม่เห็น สัญญาความจำของท่านก็อาจมีเสื่อมบ้าง  แต่โดยรวมท่านยังมีสติจำได้ ที่แน่ๆท่านยังสวดยถาสัพพีให้พรพวกเราได้  พอพูดคุยกันได้รู้เรื่อง ตอนที่จะพูดคุยกับหลวงปู่นะ ก็ได้พระอาจารย์เวศมาช่วยพูดตะโกนอยู่ข้างๆหูของหลวงปู่นะ ทำให้พอจะสื่อสารกับหลวงปู่ได้  หลวงปู่นะ ท่านคงจะดีใจที่พระอาจารย์ที่ร่วมเดินทางมากับข้าพเจ้ามาเยี่ยมเยือน  ทราบว่าหลวงปู่นะ ฉันอาหารได้น้อยมาก สงสารท่านมากครับตอนเจอ  โชคดีที่เราได้มีโอกาสถวายรังนกที่ซื้อมา แล้วพระอาจารย์เวศได้เปิดรังนกสองขวดใส่ถ้วยแก้ว ถวายให้หลวงปู่นะ ได้ฉันต่อหน้าพวกเรา  ตอนแรกนึกว่าหลวงปู่นะ ท่านคงฉันไม่ได้เพราะทราบว่าท่านฉันอะไรได้น้อยมากและแทบจะไม่ฉันอะไรเลยในแต่ละวัน  แต่เหมือนอัศจรรย์หลวงปู่นะ ท่านได้หยิบรังนกที่เราใส่แก้วมาฉันจนหมด ทำให้พวกเราและพระอาจารย์เวศดีใจมากครับ  ที่อัศจรรย์ตอนที่คณะเราไปหาหลวงปู่นะ เราเป็นคณะแรกที่ได้เข้ากราบท่าน และแปลกตรงที่หลวงปู่นะ ออกมานั่งรอพวกเราก่อนหน้า แม้แต่ตุณลุงที่นั่งอยู่หน้าประตูยังต้องเอ่ยปากว่าหลวงปู่วันนี้แปลกออกมานั่งรอใครแต่เข้า ซึ่งผิดจากกิจวัตรโดยปกติ  ข้าพเจ้าและคณะได้ถวายรูปพระพุทธเมตตาใส่กรอบอันใหญ่ให้แก่หลวงปู่นะ  ท่านได้ลูบคลำอยู่นานเลยครับ  ดูเหมือนหลวงปู่นะ จะดีใจมากเป็นพิเศษ พระอาจารย์เวศได้นำรูปที่เราถวายยกไปติดให้หลวงปู่ที่เสากุฏิ  ถ้าใครไปกราบนมัสการสังเกตดูอาจได้เจอรูปที่เราได้ถวาย  ข้าพเจ้าได้กราบขอหลวงปู่นะ ช่วยอธิษฐานพระพุทธเมตตาที่เป็นไม้โพธิ์จากพุทธคยา ขนาดบูชาของข้าพเจ้า ซึ่งเป็นพระที่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว เมื่อหลวงปู่นะได้สัมผัสพระองค์นี้ท่านจับอยู่นาน ที่แปลกคือปกติหลวงปู่นะ จะหลับตาอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อได้สัมผัสพระพุทธเมตตาองค์นี้หลวงปู่ได้ลืมตาโพลงเป็นประกายแจ่มใส เพ่งดูพระองค์นี้ตลอด เหมือนท่านจะมีความปิติเป็นพิเศษ  ท่านได้อธิษฐานสวดมนต์อยู่นาน  ได้บอกให้พระอาจารย์เวศนำพระองค์นี้ไปตั้งบูชา  ข้าพเจ้าจึงต้องบอกหลวงปู่ว่าพระองค์นี้ถวายไม่ได้ เพราะเป็นพระขนาดบูชาที่พระอาจารย์อันเป็นที่รักของข้าพเจ้าและครอบครัวได้มอบให้ ซึ่งมีแค่ 2 องค์เท่านนั้นในโลกนี้จะไม่มีการทำอีก  ข้าพเจ้าเห็นหลวงปู่ศรัทธาในพระพุทธเมตตามาก  บังเอิญภรรยาข้าพเจ้าได้พระไม้โพธ์แกะขนาดเล็กติดตัวมาด้วย จึงบอกให้ถวายมอบให้เป็นสมบัติของหลวงปู่นะ  ข้าพเจ้าจึงได้มอบพระไม้โพธิ์พุทธคยาที่เป็นพระองค์เล็กใส่มือหลวงปู่นะ  ซึ่งหลวงปู่ได้นำพระองค์เล็กนี้ไปถูที่ดวงตาของท่านอยู่เป็นเวลานาน  ก่อนที่จะเก็บใส่ไว้ในอังสะของท่าน  เหตุการณ์ตอนที่เราได้อยู่กับหลวงปู่นะ ตอนนั้นมีชาวบ้านและผู้ศรัทธามาหาหลวงปู่หลายสิบคน จำได้ว่ามีแม่ชีด้วยหนึ่งคน  เมื่อได้กราบสนทนากับหลวงปู่เป็นเวลาสมควรแล้ว ก็ได้ร่วมทำบุญทอดกฐินกับท่าน  เสร็จแล้วหลวงปู่นะ เมตตาให้พรเอามือจับศีรษะของข้าพเจ้าให้พรอยู่นานครับ  เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสเจอหลวงปู่นะ ซึ่งท่านเป็นพระดีน่าเคารพ  หลังจากกราบลาหลวงปู่นะ แล้วคณะเราได้เดินไปสวดมนต์ที่พระเจดีย์  จนกระทั่งประมาณบ่ายโมง พระอาจารย์เวศได้มาที่พระเจดีย์ ก็เหมือนบังเอิญละครับ ได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับพระอาจารย์เวศชุดใหญ่ จึงได้ทราบว่าท่านพระอาจารย์เป็นพระดี ภูมิธรรมสูง ปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น ระยะเวลาที่ได้สนทนากับพระอาจารย์เวศก็เป็นชั่วโมงครับ  พระอาจารย์เวศ อยู่ปรนนิบัติช่วยหลวงปู่นะ ประมาณ 10กว่าพรรษา  พระอาจารย์เวศ ในสมัยเป็นฆราวาสเคยรับราชการ เข้าใจว่าก่อนหน้านั้นท่านคงศึกษาและสนใจธรรมะมาก่อนที่จะบวชเป็นพระ  ด้วยความที่ข้าพเจ้าได้เจอพระอาจารย์เวศ เป็นครั้งแรก ไม่กล้าสอบถามประวัติท่านมากนัก แล้วแต่ท่านจะบอก พระอาจารย์เวศ เคยศึกษาวิชากรรมฐานอยู่กับหลวงปู่ละไม ซึ่งเป็นสายพระครูโลกอุดร หลวงปู่ละไม พยายามจะให้พระอาจารย์เวศเรียนวิชาอาคม ถ่ายทอดวิชาสำคัญบางอย่างให้เช่นการทำปรอท เป็นต้น แต่พระอาจารย์เวศ ท่านปฏิบัติธรรมเพื่อแสวงหาความหลุดพ้น ท่านได้ปฏิเสธหลวงปู่ละไม ที่จะเรียนวิชาเหล่านั้น  พระอาจารย์เวศ ท่านชอบสวดมนต์ตามที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏก เช่น พระปริตรสิบสองตำนาน บทสรรเสริญพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ เป็นต้น  ในประสบการณ์ด้านการปฏิบัติของพระอาจารย์เวศ ท่านได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังหลายเรื่องเป็นเรื่องที่ข้าพเข้าไม่สามารถถ่ายทอดได้ เอาเป็นวันว่าพระอาจารย์เวศ เป็นพระสุปฏิปัณโณ ที่แสวงหาธรรมเพื่อความหลุดพ้น จะหาพระแท้ พระดีอย่างนี้ไม่ง่ายแล้วครับ  นอกจากหลวงปู่ละไม พระอาจารย์เวศยังได้เคยอยู่กับหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุและท่านพระอาจารย์พุทธทาส  ดังนั้นพื้นฐานธรรมะของพระอาจารย์เวศจึงไม่ธรรมดา พระอาจารย์เวศ มีลายมือที่เขียนภาษาขอมได้สวยมากๆ ทั้งช่องไฟของตัวอักขระ ความคมชัด ลายเส้น แสดงให้เห็นถึงจิตที่ไม่ธรรมดา ท่านได้เมตตาให้ข้าพเจ้าเปิดดูพระคาถาที่ท่านได้รวบรวมไว้เป็นคาถาที่เขียนด้วยภาษาขอมทั้งหมด มีที่เขียนเป็นภาษาไทยที่พออ่านออกคือชื่อของพระคาถา   หนึ่งในพระคาถาของท่านที่ข้าพเจ้าเห็นว่าหายากและไม่เหมือนที่เจอคือพระคาถาอาการวัตตสูตร ซึ่งท่านค้นคว้าได้ฉบับที่สมบูรณ์มาจากศรีลังกา  พระอาจารย์เวศ ได้เมตตากับข้าพเจ้ามาก ได้เล่าประสบการณ์ในการปฏิบัติให้ฟังหลายอย่าง รวมทั้งประวัติของท่าน เรื่องรางของวัด  นอกจากนี้ยังได้พูดปริศนาธรรมอีกหลายอย่าง ที่น่าสนใจ  ที่ยังสงสัยในใจทำไมท่านจึงให้ข้าพเจ้าเปิดดูพระคาถาทั้งหมดเพียงคนเดียว 
 
***  เรื่องที่เขียนมาเพื่อยกยอ่งครูบาอาจารย์ และอาจเป็นประโยชน์กับผู้ที่แสวงหาพระดีๆ ***
 
พนัสปราการ
 
 
 

บทความพระเครื่อง

รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด

บทความพระเครื่อง

รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด รายละเอียด